การจำแนกประเภทของคลังสินค้า
4.1 กล่าวทั่วไป
เกี่ยวกับเรื่องของการจัดจำหน่ายสินค้านั้น บางกิจการอาจจัดส่งสินค้าโดยตรงจากโรงงาน ให้ลูกค้าโดยไม่ใช้บริการของการคลังสินค้าเลย อย่างไรก็ตามกิจการส่วนมากมักจะมีแหล่งเก็บสินค้าระหว่างโรงงาน และลูกค้า เมื่อกิจการมีกิจกรรมที่จะต้องเก็บรักษาสินค้าก่อนส่งให้ลูกค้า เกิดขึ้นกิจการจะต้องตัดสินใจว่าจะใช้บริการของคลังสินค้าประเภทใด กิจการคลังสินค้านั้นอาจจําแนกประเภทได้หลายลักษณะ แต่ในที่นี้เป็นการจําแนกตามลักษณะของจุดมุ่งหมายในการประกอบกิจการ ภาระหน้าที่อันเป็นกิจกรรมของคลังสินค้านั้นไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดหรือประเภทใดก็คือการเก็บรักษาสินค้าหรือพัสดุ แต่จุดมุ่งหมายในการประกอบกิจการอาจแตกต่างกันออกไปในหลายลักษณะ ตลอดจนหลักเกณฑ์ในการดําเนินกิจการทั้งทางเทคนิคและทางธุรการก็ไม่เหมือนกันอีกด้วย ซึ่งจําแนกคลังสินค้าตามลักษณะของจุดมุ่งหมายในการประกอบกิจการนี้ออกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ดังต่อไปนี้
1. กลุ่มคลังสินค้าสาธารณะ (Public warehouse )
2. กลุ่มคลังสินค้าส่วนบุคคล (Private warehouse)
3. กลุ่มคลังเก็บพัสดุ ( Material warehouse)

4.2 กลุ่มคลังสินค้าสาธารณะ
คลังสินค้าสาธารณะ เป็นกิจการทางธุรกิจที่เป็นเอกเทศเฉพาะ ไม่ใช้เป็นส่วนของกิจการหลักอย่างอื่นและเป็นกิจการแขนงหนึ่งของอุตสาหกรรมบริการ กิจกรรมในหน้าที่คลังสินค้าสาธารณะก็คือ การจัดให้มีสิ่งอํานวยความสะดวกในการเก็บรักษาสินค้าและให้บริการรับจัดจัดเก็บรักษาสินค้า รวมทั้งให้บริการต่าง ๆ เกี่ยวกับสินค้านั้น เพื่อบําเหน็จตอบแทนเป็นทางค้าปกติของกิจการ หรือ คลังสินค้าสาธารณะอาจเป็นคลังสินค้าที่จัดตั้งขึ้นในรูปของบริษัทจำกัด
  การประกอบกิจการคลังสินค้าสาธารณะ เป็นการค้าขายประเภทที่ถือว่ามีผลกระทบต่อความปลอดภัยและผาสุกของสาธารณะชน ดังนั้นการจัดตั้งคลังสินค้าและการดําเนินงานต้องให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฏหมาย ข้อบังคับ และเงื่อนไขควบคุมของรัฐซึ่งมีความแตกต่างกันพอที่จะแบ่งคลังสินค้ากลุ่มนี้ออกเป็น 3 ประเภทคือ
1. คลังสินค้าสาธารณะของบริษัทเอกชน
2. คลังสินค้าสาธารณะขององค์การรัฐบาล
3. คลังสินค้าสาธารณะของสหกรณ์

4.2.1 คลังสินค้าสาธารณะของบริษัทเอกชน เป็นธุรกิจการค้าของภาคเอกชนที่จัดตั้งขึ้นในรูปของบริษัทจํากัด หรือบริษัทมหาชนจํากัด แล้วแต่กรณี ลงทุนจัดให้มีสิ่งอํานวยความสะดวกในการเก็บรักษาขึ้นเป็นแบบใดแบบหนึ่งโดยเฉพาะ หรือหลาย ๆ แบบรวมอยู่ในบริษัทเดียวกันก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของสินค้าที่รับทําการเก็บรักษา กิจการสําคัญที่คลังสินค้าสาธารณะของบริษัทเอกชนดําเนินงานได้แก่
1.รับฝากสินค้าโดยผู้ประกอบกิจการคลังสินค้าได้รับเงินค่าตอบแทน หรือประโยชน์อื่นได
2.ให้ผู้ฝากกู้ยืมเงินโดยเอาสินค้าที่ฝากนั้นจํานําไว้เป็นประกันแก่ผู้ประกอบกิจการคลังสินค้า โดยผู้ประกอบกิจการคลังสินค้าได้รับดอกเบี้ยหรือประโยชน์อื่นใด เป็นค่าตอบแทน
3.ให้บริการด้านความเย็นในการเก็บรักษาสินค้า รับอบพืชลดความชื้นกะเทาะ คัดผสม หรือด้วยกรรมวิธีอย่างอื่น เพื่อประโยชน์ของผู้ฝาก โดยผู้ประกอบกิจการคลังสินค้าได้รับค่าตอบแทนหรือประโยชน์อย่างอื่นใด
4.กระทําการใดๆตามแบบพิธีเกี่ยวกับการศุลกากร การนําเข้า การส่งออก การขนส่งสินค้า และอาจจัดให้มีการกันภัยซึ่งสินค้าซึ่งตนพึ่งกระตามสัญญาเก็บของในคลังสินค้า เป็นต้น

4.2.2 คลังสินค้าสาธารณะขององค์การรัฐบาล องค์การรัฐบาลที่ประกอบธุรกิจทางการค้า จะจัดตั้งขึ้นในรูปของรัฐวิสาหกิจหรือรัฐพาณิชย์รูปอื่น จุดมุ่งหมายหรือนโยบายหลักในการประกอบกิจการขององค์การเหล่านี้เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในด้านต่าง ๆ เป็นสําคัญ เช่นนโยบายทางเศรษฐกิจ การรักษาความมั่นคงของชาติหรือการป้งอกันประเทศ การรักษาความปลอดภัยหรือความผาสุกของประชาชน หรือเป็นกิจการด้านสาธารณูปโภคที่มีความสําคัญต่อประชาชนเป็นจํานวนมาก เป็นต้น

4.2.3 คลังสินค้าสาธารณะของสหกรณ์ สหกรณ์เป็นองค์การของเอกชนที่อยู่ภายใต้การควบคุมและโดยการสนับสนุนของรัฐบาล จัดตั้งขึ้นตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายสหกรณ์ เป็นการรวมตัวของกลุ่มอาชีพ กลุ่มผลประโยชน์ ที่มีเป้าหมายในการดําเนินกิจการร่วมกัน ช่วยเหลือสนับสนุนซึ่งกันและกันในทางเศรษฐกิจ เช่นสหกรณ์การเกษตร สหกรณ์การประมง สหกรณ์บริการ สหกรณ์ร้านค้า สหกรณ์นิคม





4.3 กลุ่มคลังสินค้าส่วนบุคคล
คลังสินค้าส่วนบุคคล เป็นกิจการคลังสินค้าที่อํานวยประโยชน์แก่กิจการหลักอย่างอื่น ไม่ใช่กิจการคลังสินค้าที่เป็นธุรกิจเฉพาะเช่นกับคลังสินค้าสาธารณะ จุดหมายในการจัดตั้งและประกอบกิจการของคลังสินค้าส่วนบุคคลคอยการเก็บรักษาสินค้าเพื่อสนับสนุนวัตถุประสงค์ของกิจการอันเป็นธุรกิจหลักที่เป็นเจ้าของคลังสินค้านั้น ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นหลักนั้นอาจเป็นบริษัทเอกชน องค์การรัฐบาล หรือสหกรณ์ก็ไม่แตกต่าง สิ่งอำนวยความสะดวกในการเก็บรักษาอาจเป็นอาคารคลังแบบหนึ่งแบบใด หรือเป็นเพียงพื้นที่เก็บรักษาที่รวมอยุ่ในอาคารเดียวกันกับกิจการอันเป็นธุรกิจหลักของบริษัทหรือองค์การนั้นเองก็ได้
คลังสินค้าเอกชน คือคลังสินค้าที่กิจการเป็นเจ้าของเองหรือเช่าซื้อ มีวัตถุประสงค์ในการเก็บรักษา วัตถุดิบและสินค้าสําเร็จรูปของผู้ผลิตหรือผู้จําหน่ายโดยที่ผู้ผลิตหรือผู้จําหน่ายนั้นเป็นเจ้าของคลังสินค้าเองและไม่มีการรับฝากสินค้าจากผู้อื่น คลังสินค้าประเภทนี้จะเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งที่สนับสนุนการ ประกอบธุรกิจอื่นของกิจการ คลังสินค้าเอกชนสามารถอํานวย ประโยชน์แก่กิจการหลาย ๆ ประการดังนี้
    การออกแบบ เจ้าของกิจการสามารถออกแบบคลังสินค้าเพ่อสนองความต้องการพิเศษของตนเองได้
   การควบคุม กิจการสามารถมอบหมายความรับผิดชอบ และควบคุมการดําเนินงานทุก ๆ ด้านด้วยตัวเอง ตลอดจนสามารถกําหนดเป้าหมายและนโยบายให้สอดคล้องกับการผลิตและการขายได้
   ค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานโดยทั่วไปของคลังสินค้าทั้งสองประเภทจะคล้ายคลึงกัน ยกเว้นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขาย และโฆษณาที่คลังสินค้าเอกชนจะไม่มี
   การติดต่อกับลูกค้า กิจการที่มีคลังสินค้าของตนเองย่อมสามารถติดต่อกับลูกค้า และตลาดได้สะดวกกว่า และเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นกับลูกค้าย่อมจะตรวจสอบ และแก้ไข ได้อย่างรวดเร็ว
   
คลังสินค้าส่วนบุคคลไม่ใช่กิจการคลังสินค้าที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัย และผาสุกของสาธารณะชน โดยตรงในส่วนของกิจกรรมที่คลังสินค้านั้นดําเนินงาน แม้คลังสินค้าในกลุ่มนี้บางประเภทจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเก็บรักษาสินค้าของผู้อื่น แต่ความรับผิดชอบต่อสินค้านั้นก็เป็นเรื่องของกิจการหลักที่มีคลังสินค้าเป็นกิจกรรมอํานวยประโยชน์ ดังนั้นการจัดตั้งและการดําเนินงานจึงไม่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมาย และเงื่อนไขควบคุมคลังสินค้าความเหมือนกันของคลังสินค้าในกลุ่มนี้คือการเป็นกิจกรรมอํานวยประโยชน์ของการประกอบกิจการค้าหลัก อย่างอื่นที่จําเป็นต้องมีการเก็บรักษาสินค้าเพื่อสนับสนุนกิจการนั้น แต่จุดประสงค์ในการเก็บรักษา และหลักเกณฑ์ ในการสะสมสินค้า ตลอดจนรายละเอียดในการปฏิบัติทางธุรการเกี่ยวกับสินค้าที่เก็บรักษานั้นมีข้อแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าคลังสินค้านั้นเป็นกิจกรรมส่วนบุคคลของกิจการประเภทใด ซึ่งพอจะจําแนกตามลักษณะความแตก ต่างที่กล่าวแล้วออกเป็น 3 ประเภท คือ
1. คลังสินค้าส่วนบุคคลของกิจการผลิตสินค้า
2. คลังสินค้าส่วนบุคคลของกิจการจําหน่ายสินค้า
3. คลังสินค้าส่วนบุคคลของกิจการขนส่งสินค้า



ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม