ความสัมพันธ์ของการคลังสินค้าและกิจกรรมด้านอื่นๆ
ความสัมพันธ์ของการคลังสินค้าและกิจกรรมด้านอื่น
ๆ แบ่งเป็นดังนี้
การจัดการคลังสินค้ากับการผลิต
การผลิตที่ผลิตเป็นปริมาณน้อยแต่ทำการผลิตบ่อยๆ
หรือการผลิตที่ผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้า
หรือที่เรียกว่าระบบการผลิตแบบตามคำสั่งซื้อ (Make to order) นั้นจะทำให้ต้นทุนด้านสินค้าคงคลังน้อย แต่ต้นทุนการตั้งสายการผลิตสูง
(Setup cost) ซึ่งอาจจะสูงมากจนทำให้ต้นทุนรวมของการผลิตสูง
ในทางตรงกันข้ามในระบบการผลิตที่ผลิตต่อครั้งเป็นปริมาณมาก (Make to stock) ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการตั้งสายการผลิตต่ำ
แต่ต้องมีต้นทุนสินค้าคงคลังสูง
ซึ่งมีความจำเป็นต้องสร้างคลังสินค้ารองรับและมีระบบการจัดการคลังสินค้าที่
มีประสิทธิภาพ
การจัดการคลังสินค้ากับการขนส่ง
การคลังสินค้ากับการขนส่งมีความสัมพันธ์กันมาก
กล่าวคือ ในการขนส่งที่ต้องการรวบรวมสินค้าก่อนการขนส่ง(Consolidate) เพื่อประโยชน์ของการขนส่งที่เป็นปริมาณมาก
นั้นจำเป็นต้องใช้คลังสินค้าเป็นจุดรวบรวมและกระจายสินค้า(Consolidate point) ทั้งนี้เพื่อเป็นการประหยัดค่าขนส่ง
(Transportation cost) ถึงแม้ว่าการขนส่งบางประเภทจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งลงได้โดยไม่ต้องใช้คลัง
สินค้าช่วย เช่น ระบบการขนส่งแบบ Milk run แต่ก็ต้องใช้ระบบการจัดการผลิตที่มีประสิทธิภาพและต้องอาศัยการแบ่งปัน
ข้อมูลที่มาก และยังต้องการระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพสูงด้วย
การจัดการคลังสินค้ากับการบริการ
การคลังสินค้ากับการบริการมีความสัมพันธ์กันมาก
กล่าวคือ
ในกิจการบางประเภทต้องการระดับการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่รวดเร็ว
และแม่นยำ เช่น ระบบในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคนั้น
จำเป็นต้องใช้คลังสินค้าและระบบการจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพเพื่อ
ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ
ที่มาhttps://www.logisticafe.com/2014/05/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2/
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น